นโยบายความเป็นส่วนตัว

        บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตระหนักดีถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวและความรับผิดชอบของ บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือการส่ง การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่น

        ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นที่ท่านมีให้แก่เรา เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเรา จึงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้มีการประมวลผลและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้องและเหมาะสม ดังนั้น การสร้างความเข้าใจแก่ท่านในเรื่องของวิธีการ ขั้นตอนในการเก็บรวบรวม การใช้ การประมวลผล และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญสำหรับ บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ ท่านจะต้องอ่านและทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้อย่างละเอียด ดังนี้

 

คำแถลงว่าด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล



การแจ้งรายละเอียดอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เรียน ท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ได้มีการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ อาทิ การทำสัญญาประกันภัย การให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับสัญญาประกันภัย การลงทุนประกอบธุรกิจอื่น การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน การเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทแก่ท่าน การทำสัญญาจ้างแรงงาน การทำสัญญาตัวแทนประกันชีวิต การทำสัญญานายหน้าประกันชีวิต การทำสัญญาเช่า สัญญาจ้างบริการหรือสัญญาจ้างทำของต่างๆ เป็นต้น

    บริษัทเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของท่าน และตระหนักดีถึงความรับผิดชอบของบริษัทในการจัดการดูแลและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ไว้กับบริษัท ภายใต้บทบังคับของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัทจึงขอแจ้งให้ท่านทราบว่า บริษัทได้มีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตัวอย่างเช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งอยู่ในความครอบครองของบริษัทก่อนหน้าวันที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลบังคับใช้ทั้งฉบับ

    ดังนั้น เพื่อเป็นการแจ้งให้ท่านทราบรายละเอียดประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (www.builife.com/privacy-policy.html) อันจะนำมาซึ่งการสร้างความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล พร้อมทั้งข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิของท่านตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงเพื่อให้ท่านมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความควบคุมของบริษัท โปรดใช้เวลาในการอ่านและทำความเข้าใจข้อมูลดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง

    กรณีที่ท่านไม่ประสงค์ให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถขอถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยติดต่อเราที่ BuiL_Care@builife.com หรือ โทร 0-2634-7323 เมื่อบริษัทได้รับคำขอจากท่าน บริษัทจะพิจารณาและดำเนินการตามที่พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ การยกเลิกความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อการรับบริการต่างๆ จากบริษัท เช่น ท่านอาจไม่ได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์ ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงข้อมูลข่าวสารอันอาจเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น
    หากบริษัทไม่ได้รับการติดต่อจากท่านก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565 บริษัทขอเรียนใช้โอกาสนี้แจ้งให้ท่านทราบว่าบริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมดังเช่นที่ผ่านมา ซึ่งรวมไปถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กำหนดไว้ในพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท

ขอแสดงความนับถือ

บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

1 พฤษภาคม 2565

 

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า



ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า

(Privacy Notice)

     บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตระหนักบริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (ต่อไปจะเรียกว่า “เรา”) ตระหนักดีถึงสิทธิความเป็นส่วนตัวซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานสำคัญที่ต้องได้รับความคุ้มครองและความรับผิดชอบของเราเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และหรือการส่งหรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่น
     บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตระหนักเรายึดมั่นค่านิยมที่ถือว่า ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นที่ท่านมีให้แก่เรา เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับเรา ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะจัดการให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด ดังนั้นเราจึงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น (“นโยบาย”) เพื่อชี้แจงถึงรายละเอียดและวิธีการที่เราจะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับจากท่าน รวมทั้งสาระสำคัญในเรื่องต่างๆ อาทิ วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผู้ที่เราอาจจะเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปให้ ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ตลอดจนแจ้งให้ทราบถึงสิทธิต่างๆ ของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงช่องทางการขอใช้สิทธิดังกล่าว
    เราจึงขอให้ท่านศึกษาและทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้อย่างละเอียด ดังนี้
1. คำจำกัดความ
ให้นำคำจำกัดความตามที่ได้ระบุไว้ในกฎหมายมาปรับใช้กับนโยบายฉบับนี้โดยอนุโลม ทั้งนี้ เว้นแต่จะได้ระบุหรือให้คำจำกัดความนั้นไว้เป็นอย่างอื่นในนโยบายนี้
     "ท่าน" หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ลูกค้า ผู้มุ่งหวัง ผู้เอาประกันชีวิต สมาชิกผู้เอาประกันชีวิต ผู้รับผลประโยชน์ ผู้ชำระเบี้ยตามกรมธรรม์ ผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ ผู้สนใจหรือประสงค์จะทำประกันชีวิตกับเรา ผู้เข้าร่วมแคมเปญ/กิจกรรมทางการตลาดของเรา ผู้ให้ความสนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราผ่านช่องทางต่างๆ ผู้ใช้บริการผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตหรือบริการด้านอื่นๆ ของเรา รวมถึงผู้มีอำนาจดำเนินการแทนท่านตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี เช่น ผู้ใช้อำนาจปกครองของผู้เยาว์ ผู้อนุบาลของผู้ไร้ความสามารถ ผู้พิทักษ์ของผู้เสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น ทั้งนี้ ให้หมายรวมถึงบุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอื่นในลักษณะเดียวกันด้วย

     “บุคลากรและคู่ค้าของเรา” หมายถึง บุคลากรและพนักงานของเรา เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า พนักงานขาย ตัวแทน นายหน้า คนกลางประกันภัย ผู้รับจ้าง คู่ค้า ผู้ให้บริการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้กระทำการแทน หรือบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับเรา

    “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ในอนาคต

    “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคลแต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

    “การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”หมายถึง การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระบบ การจัดโครงสร้าง การจัดเก็บ การดัดแปลง การปรับเปลี่ยน การกู้คืน การใช้ การเปิดเผยโดยการส่ง การโอน การเผยแพร่ การทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใดๆ การจัดเรียง การนำมารวมกัน การห้ามเข้าถึงหรือจำกัด การลบ หรือการทำลาย และหมายรวมถึงการดำเนินการใดๆ เพื่อปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน เป็นต้น

1. ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่เราจะเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมภายใต้นโยบายฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับเราโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับมาจากบุคคลภายนอก (ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) อาจประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้
        (1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านเป็นการทั่วไป เช่น ชื่อนามสกุลปัจจุบัน ชื่อนามสกุลเดิม เลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด อายุ อาชีพ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง กรุ๊ปเลือด โรคประจำตัว ความพิการ เลขที่หนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ สัญชาติ ศาสนา สถานภาพทางการสมรส รูปถ่าย
        (2) ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์บ้าน หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่เพื่อจัดส่งไปรษณีย์ อีเมล รายละเอียดบุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน และรายละเอียดข้อมูลติดต่ออื่นๆ
        (3) ข้อมูลและประวัติเกี่ยวกับการทำงานของท่าน ซึ่งอาจรวมถึงชื่อและที่อยู่ของนายจ้าง
        (4) ข้อมูลทางการเงิน เช่น รายได้ แหล่งที่มาของรายได้ หมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับภาษี รายละเอียดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร รายละเอียดเกี่ยวกับเงินกู้ ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน รายละเอียดเกี่ยวกับบัตรเครดิต/เดบิต รายละเอียดเกี่ยวกับสินเชื่อ ประวัติเกี่ยวกับบัตรเครดิตหรือสินเชื่อบุคคล และรายละเอียดหรือข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงินอื่นๆ
        (5) ข้อมูลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับท่าน หรือบุคคลในครอบครัวของท่าน เช่น คู่สมรส ผู้รับผลประโยชน์ ผู้ชำระเบี้ย ผู้ถือกรมธรรม์ สมาชิกผู้เอาประกันภัย
        (6) ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง เช่น วันที่เดินทาง สถานที่เดินทางไปหรือกลับ พิกัดการเดินทาง และหรือรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเดินทาง
        (7) ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการถูกดำเนินคดีความของท่าน เช่น ประวัติอาชญากรรม บันทึกเกี่ยวกับการดำเนินคดีไม่ว่าทางแพ่ง หรือการดำเนินคดีอื่นๆ รวมไปถึงรายงานของตำรวจ และคำสั่งศาลที่เกี่ยวข้อง
        (8) ข้อมูลด้านสุขภาพและข้อมูลทางการแพทย์ของท่าน เช่น ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการขอคำปรึกษา บันทึกการตรวจทางการแพทย์ บันทึกการสืบสวนทางการแพทย์ บันทึกของพยาบาล ประวัติการสั่งจ่ายยา บันทึกการรักษา รายละเอียดการบริการทางการแพทย์ที่ได้รับ รายงานทางการแพทย์ รายงานการชันสูตรพลิกศพ และรายละเอียดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ รวมไปถึงคำถามเกี่ยวกับสุขภาพ และข้อมูลหรือสิ่งใดๆ ที่แสดงออกมาในรูปเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิล์ม การบันทึกภาพหรือเสียงการบันทึกโดยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือสิ่งอื่นใดที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏขึ้นในเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพของบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ตลอดจนข้อมูลอื่นๆ ตามที่หน่วยงานที่มีอำนาจเกี่ยวกับการคุ้มครองและจัดการข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลประกาศกำหนด
        (9) ข้อมูลรายละเอียดผลิตภัณฑ์ และหรือบริการต่างๆ ที่ท่านเคยซื้อจากเราหรือจากผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยอื่นๆ เช่น หมายเลข กรมธรรม์ จำนวนเงินเอาประกัน การเปลี่ยนแปลง/การทำธุรกรรมเกี่ยวกับกรมธรรม์ วิธีการจ่ายเบี้ยประกัน ประวัติการชำระเบี้ยประกัน หรือประวัติเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน ผู้รับประโยชน์ การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน รวมถึงการใช้สิทธิต่างๆ ภายใต้กรมธรรม์ หรือผลิตภัณฑ์ หรือบริการอื่นๆ ของเรา หรือผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยอื่นๆ
        (10) ข้อมูลสถานะเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงินและการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และภาวะล้มละลาย กฎหมายสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการป้องกันมิให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นบุคคลอเมริกันหลีกเลี่ยงภาษี (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA)
        (11) ข้อมูลการทำธุรกรรมหรือขอใช้บริการระหว่างท่านกับเรา อันเนื่องมาจากการทำข้อตกลงหรือสัญญา หรือการยอมรับเงื่อนไขในการใช้บริการระหว่างท่านกับเรา
        (12) ข้อมูลการติดต่อของท่านกับเราในรูปแบบของบันทึกข้อความของผู้รับบริการ การประเมินความพึงพอใจ การวิจัยและสถิติ หรือการบันทึกเสียงสนทนา หมายเลขผู้โทรศัพท์เข้า การฝากข้อความเสียง (Voice Mail) การบันทึกภาพ หรือการบันทึกภาพและเสียงผ่านกล้องรักษาความปลอดภัย (CCTV) การบันทึกภาพและเสียงในการติดต่อเพื่อรับบริการในรูปแบบ VDO Call Service รวมถึงการให้ข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ เช่น SMS Social Media แอปพลิเคชัน หรืออีเมล เป็นต้น
        (13) ข้อมูลทางเทคนิค และกิจกรรมส่วนบุคคล/ลักษณะการใช้งานที่ท่านชอบ เมื่อท่านใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชันของเรา และอาจรวมถึงแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของผู้ให้บริการอื่น เช่น ชื่อเรียกตัวตนเฉพาะของลูกค้าที่ใช้บนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ ที่อยู่ไอพี ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเขตเวลา ประเภทของปลั๊กอินในเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม ข้อมูลผู้ใช้ (user profile) ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ข้อมูลเครือข่ายไร้สายและข้อมูลเครือข่ายทั่วไป
        (14) ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับเราเมื่อสร้างบัญชีออนไลน์ หรือบัญชีของแอปพลิเคชัน โดยทั่วไปบริการเหล่านี้กำหนดไว้สำหรับเจ้าของที่ลงทะเบียนเท่านั้น หากท่านเลือกที่จะให้บุคคลอื่น เช่น สมาชิกในครอบครัวหรือตัวแทนของท่านใช้บัญชีของท่าน ท่านควรดำเนินการให้บุคคลนั้นๆ ศึกษานโยบายฉบับนี้อย่างละเอียด
        (15) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ตามที่กฎหมายระบุให้ต้องขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวม เราจะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมจากท่านก่อนหรือในขณะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด

เรามีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) ของท่าน เช่น ประวัติสุขภาพ ซึ่งอาจรวมถึงพฤติกรรมการสูบบุหรี่ พฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อการซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา กล่าวคือ ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อการพิจารณารับประกันภัย ตลอดจนการให้บริการและการจ่ายค่าสินไหมทดแทน หรือปฏิบัติตามเงื่อนไขกรมธรรม์ หากท่านไม่ยินยอมให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว เราจะไม่สามารถให้ผลิตภัณฑ์และให้บริการใดๆ แก่ท่านได้ และในกรณีที่ท่านใช้สิทธิเพิกถอนความยินยอม หรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล หรือขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว เราจะไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขกรมธรรม์ หรือให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์แก่ท่านได้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านต้องเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ เราจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หรือตามที่ตกลงกันในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
2. เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้จากท่านโดยตรง
        (1) เมื่อท่านแสดงเจตนาจะขอเอาประกันภัยหรือ ใช้สิทธิตามกรมธรรม์ประกันภัยส่วนบุคคล ประกันภัยกลุ่ม รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับเงินบำนาญของเรา และ/หรือเมื่อท่านเข้าถึงหรือใช้เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน และหรือบริการต่างๆ ทางออนไลน์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือทางโทรศัพท์ หรือบริการอื่นๆ ของเรา (“ผลิตภัณฑ์” หรือ “บริการ”)
        (2) เมื่อท่านเข้าทำสัญญาหรือข้อตกลงใดๆ กับเรา หรือขอใช้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ของเรา
        (3) เมื่อท่านส่งเอกสารและใบคำขอเอาประกันเพื่อซื้อหรือใช้ หรือเมื่อท่านให้ข้อมูลขณะที่พิจารณาจะขอเอาประกันภัยหรือใช้สิทธิตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือบริการต่างๆ ของเรา
        (4) เมื่อท่านติดต่อสื่อสารกับเราหรือบุคลากรและคู่ค้าของเรา ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็นหนังสือหรือวาจา ทั้งแบบพบหน้าและไม่พบหน้า ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การพบปะกันโดยตรง การสัมภาษณ์ ข้อความสั้น (SMS) โทรสาร ไปรษณีย์ หรือโดยวิธีการอื่นใด โดยไม่คำนึงว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ติดต่อฝ่ายนั้นก่อนหรือไม่ก็ตาม
        (6) เมื่อท่านส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เราเพื่อเข้าร่วมในแคมเปญ/กิจกรรมทางการตลาดหรือบริหารลูกค้าสัมพันธ์ การประกวด การจับฉลากชิงโชค กิจกรรมตอบแบบสำรวจ งานอีเว้นท์ หรือการแข่งขันต่างๆ ที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของเรา และหรือบุคลากรและคู่ค้าของเรา
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ
เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคบางอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์ กิจกรรมและรูปแบบการเข้าชม ข้อมูลประวัติการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของท่านโดยอัตโนมัติ โดยใช้คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน เมื่อท่านเข้าถึงหรือใช้เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน และหรือบริการต่างๆ ทางออนไลน์ของเรา บนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่นใด รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของเรา
2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับจากบุคคลภายนอก
        (1) เมื่อเราได้รับการแนะนำท่าน หรือเมื่อเราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคลากรและคู่ค้าของเรา
        (2) เมื่อเราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากสมาชิกในครอบครัวของท่าน หรือผู้รับผลประโยชน์ เมื่อท่านซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา
        (3) เมื่อเราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกเกี่ยวกับท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการได้รับข้อมูลจากการตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่เป็นสาธารณะ แหล่งข้อมูลส่วนตัว หรือแหล่งข้อมูลเชิงพาณิชย์ เว็บไซต์ แหล่งข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการข้อมูล (data providers) แหล่งข้อมูลทางการแพทย์ สถานบริการสาธารณสุข โรงพยาบาล แพทย์ บุคลากรผู้ประกอบวิชาชีพสาธารณสุขอื่น ผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยอื่น สมาคมหรือสมาพันธ์ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่ท่านซื้อหรือบริการที่ท่านใช้ ใบคำขอเอาประกันสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ท่านซื้อหรือบริการที่ท่านใช้ การรับประกันความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ที่ท่านซื้อ การร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และหรือผลิตภัณฑ์และบริการของเราที่ซื้อหรือใช้โดยท่าน (“แหล่งข้อมูลที่เป็นบุคคลภายนอก”)
        (4) เมื่อบุคคลที่เข้าทำธุรกรรมกับเราได้ทำธุรกรรมใดๆ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายกับท่าน เช่น การชำระเบี้ยประกันให้กับท่าน
        (5) เมื่อเราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากภายนอกเกี่ยวกับท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายและเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการกำกับดูแลในประการอื่นๆ ตลอดจนเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากสำนักงานคณะกรรมการ กำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน เราจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

การที่ท่านเลือกที่จะไม่ให้เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลบางประการที่เราร้องขอ หรือการที่ท่านไม่ให้ความยินยอมหรือยกเลิกการให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล อาจเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการทำธุรกรรมระหว่างเรากับท่าน หรือต่อการให้บริการของเราต่อท่าน หรือต่อการตอบสนองต่อข้อร้องขออื่นๆ ของท่านได้ เช่น เราอาจไม่สามารถดำเนินการเพื่อเข้าทำสัญญาประกันภัยหรือสัญญาอื่นใดกับท่านได้ หรืออาจจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาประกันภัยหรือสัญญาอื่นใดที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือเราอาจไม่สามารถให้บริการต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือบริการของเรา รวมถึงการให้บริการเกี่ยวกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้แก่ท่านได้ ในกรณีดังกล่าว เราอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการให้บริการที่เกี่ยวข้องต่อท่าน หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำร้องหรือคำขอของท่านไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน และอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใดๆ ที่เราหรือท่านมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม

เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่เรา (ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้เอาประกัน สมาชิกในครอบครัว ผู้ชำระเงินตามกรมธรรม์ หรือผู้รับประโยชน์) ท่านต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการขอความยินยอม หรือแจ้งนโยบายฉบับนี้แก่บุคคลภายนอกในนามของเรา เพื่อให้เราสามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในนโยบายฉบับนี้ และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นอกจากนี้ ท่านรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น พร้อมทั้งรับรองและรับประกันว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับรายละเอียดตามนโยบายฉบับนี้

ตราบเท่าที่กฎหมายอนุญาต ท่านตกลงเพิ่มเติมที่จะดำเนินการให้เราได้รับการชดใช้อย่างเต็มที่ ต่อความเสียหาย ความสูญเสีย การลงโทษ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับการดำเนินคดี ไม่ว่าในประการใดๆ ซึ่งรวมถึงค่าปรับ เบี้ยปรับ ดอกเบี้ย เงินเพิ่ม หรือเงินอื่นๆ ที่เรียกเก็บ เรียกปรับ หรือเก็บโดยหน่วยงานกำกับดูแลหรือหน่วยงานที่มีอำนาจออกกฎระเบียบ อันเกิดจากหรือเกี่ยวเนื่องกับการกระทำหรือการละเว้นไม่กระทำของท่าน (หรือของเจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้ให้คำปรึกษา ตัวแทน หรือผู้แทนของท่าน) ความผิดหรือความประมาทเลินเล่อของท่านในการปฏิบัติหน้าที่เหล่านั้น หรือที่ส่งผลให้เราถูกกล่าวหาหรือลงโทษฐานฝ่าฝืนกฎหมายที่ใช้บังคับ

3. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
        (1) เพื่อเสนอขาย ขาย จัดให้ บริหารจัดการ ดำเนินการ ปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการ และจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และหรือบริการของเราให้แก่ท่าน
        (2) เพื่อการพิจารณารับประกันภัย การเอาประกันภัยต่อ การคำนวณเบี้ยประกัน การดำเนินการและการให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเอาประกันภัยและ/หรือกรมธรรม์ประกันภัยที่ท่านได้ทำไว้กับเรา รวมถึงการจัดทำเอกสารสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การดำเนินการจัดส่งกรมธรรม์ และปฏิบัติตามกรมธรรม์ประกันภัย
        (3) เพื่อการดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญาหรือข้อตกลงต่างๆ หรือเพื่อดำเนินการตามคำร้องหรือคำขอของท่าน
        (4) เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการ จัดการ ทำให้แล้วเสร็จ ซึ่งการให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ของเรา รวมทั้งแต่ไม่จำกัดเพียงแต่การประเมินข้อมูลทางการเงินของท่าน และการแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมให้แก่ท่าน การทำโพรไฟล์ลิ่ง (Profiling) การปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการเกี่ยวกับใบคำขอเอาประกันสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการ การจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ท่านซื้อหรือบริการที่ท่านใช้ การเก็บเบี้ยประกัน และเงินค้างชำระจากท่าน การสืบสวน วิเคราะห์ ประมวลผล การเวนคืนกรมธรรม์ และการจ่ายค่าสินไหมทดแทน/การจ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ภายใต้กรมธรรม์ของท่าน และการต่ออายุ ปรับปรุงแก้ไข ยกเลิกกรมธรรม์ของท่าน
        (5) เพื่อการใช้สิทธิใดๆ ภายใต้กรมธรรม์ของท่าน ซึ่งรวมถึงสิทธิในการรับช่วงสิทธิ และสิทธิที่ได้รับช่วงมาด้วย
        (6) เพื่อการออกแบบผลิตภัณฑ์และหรือบริการใหม่ของเรา หรือการเสริมเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์และหรือบริการที่มีอยู่ของเรา
        (7) เพื่อการดำเนินการเพื่อทำประกันภัยต่อสำหรับผลิตภัณฑ์และหรือบริการของเราให้แก่ท่าน
        (8) เพื่อการติดต่อสื่อสารระหว่างเรากับท่าน ซึ่งรวมถึงการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการและข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือบัญชีใดๆ ที่ท่านอาจมีกับเรา การให้การสนับสนุนทางเทคนิคเกี่ยวกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของเรา หรือการสื่อสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะมีขึ้นต่อนโยบายฉบับนี้ในอนาคต
        (9) เพื่อการจัดการข้อร้องเรียน ข้อเสนอแนะ และข้อสอบถาม ตลอดจนดูแลกรณีมีการขอเข้าถึงหรือขอแก้ไขข้อมูล หรือกรณีใช้สิทธิอื่นอันเกี่ยวกับข้อมูล การสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ โดยผู้มีสิทธิตามกฎหมาย หรือติดต่อท่านเพื่อแจ้งรายละเอียด ความคืบหน้า ภายใต้กรมธรรม์ของท่าน
        (10) เพื่อการบริหารจัดการ ควบคุม ตรวจสอบ ธุรกิจตัวแทนประกันชีวิตและ/หรือนายหน้าประกันชีวิต เพื่อสร้างคุณภาพในการประกันภัย รวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่เพียงการวางแผนกำลังคน การจ่ายผลประโยชน์ ค่าตอบแทน การคิดค่าตอบแทนที่จูงใจ ข้อเสนอ รางวัล การประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่
        (11) เพื่อการทำวิจัยทางการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง และการทำวิจัยเชิงสถิติหรือคณิตศาสตร์ประกันภัย การรายงานหรือการประเมินผลทางการเงินที่จัดทำขึ้นโดยเรา บุคลากรและคู่ค้าของเรา หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับเรา
        (12) เพื่อการสืบสวนหรือป้องกันการกระทำที่เกี่ยวกับการฉ้อโกง การปกปิดข้อความจริง และการกระทำผิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำผิดจริงหรือการกระทำที่สงสัยว่าจะเป็นการกระทำผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อการติดต่อสื่อสารกับบริษัทต่างๆ ในธุรกิจบริการทางการเงินและการประกันภัย ตลอดจนเพื่อการติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับเรา
        (13) เพื่อรักษาความปลอดภัยของพนักงานและบุคคลภายนอก รวมทั้งทรัพย์สินและข้อมูลต่างๆ ของเรา
        (14) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กรของเรา และเพื่อการทำธุรกรรมของเรา
        (15) เพื่อให้ท่านสามารถเข้าถึงเนื้อหาในเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ หรือบริการอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการเฉพาะ
        (16) เพื่อการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของท่าน และการทำความเข้าใจลักษณะการใช้งานที่ท่านชอบ เพื่อจัดทำให้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เหล่านั้นตอบสนองอย่างเหมาะสมกับท่านโดยเฉพาะ เพื่อการประเมิน หรือดำเนินการ และการปรับปรุงเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เหล่านั้น หรือผลิตภัณฑ์และหรือบริการของเรา การแก้ไขปัญหาต่างๆ การแนะนำผลิตภัณฑ์และหรือบริการที่เกี่ยวข้อง และการจัดโฆษณาบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และช่องทางอื่นๆ ตามกลุ่มเป้าหมาย
        (17) เพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัย การจัดการและการคุ้มครองโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศการใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการแม่ข่ายข้อมูลและเว็บไซต์ การวิเคราะห์ข้อมูล การดูแลความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ
        (18) เพื่อการตรวจสอบหรือพิสูจน์ยืนยันตัวตนของท่านเมื่อท่านติดต่อเราเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ หรือขอรับบริการผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการสื่อสารทั้งหมดของเรากับท่านมีความปลอดภัยและเป็นความลับ
        (19) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย และการตรวจสอบธุรกิจของเรา ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบภายใน หรือการตรวจสอบจากบุคคลภายนอก
        (20) เพื่อการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดภายใต้นโยบายภายในของเราที่ยึดถือปฏิบัติ
        (21) เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการ จัดเก็บ บันทึก สำรอง หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร หรืออิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการสำรองข้อมูลในระบบของเรา การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ การจัดการด้านอื่นๆ เพื่อรองรับความปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ และการปฏิบัติการทางด้านเทคโนโลยีของเรา การให้บริการ เช่น การชำระเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Online Payment) แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Application) และแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ออนไลน์อื่นๆ
        (22) เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือนโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกำหนดขึ้นโดยหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือหน่วยงานที่ดูแลธุรกิจประกันภัย ไม่ว่าหน่วยงานใดก็ตาม
        (23) เพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย หรือการให้ความช่วยเหลือ ให้ความร่วมมือ การสืบสวนโดยเราหรือในนามของเรา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือโดยหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ ในประเทศ และการดำเนินการตามหน้าที่ในการรายงาน และข้อกำหนดต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใดๆ หรือการดำเนินการตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานของรัฐ
        (24) เพื่อขอรับคำปรึกษาของเรา จากผู้ประกอบวิชาชีพ อาทิเช่น ทนายความ แพทย์ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือที่ปรึกษา
        (25) เพื่อการเก็บรวมรวบ ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อประโยชน์ในการกำกับและดูแลส่งเสริมธุรกิจประกันภัยตามกฎหมายว่า ด้วยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ คปภ. ซึ่งสามารถตรวจดูได้ที่เว็บไซต์ของ คปภ. (https://www.oic.or.th)
        (26) เพื่อวัตถุประสงค์ในด้านการตรวจสอบและฝึกอบรมพนักงาน เพื่อเพิ่มคุณภาพการให้บริการ รวมถึงการปรับปรุงพัฒนากระบวนการติดต่อสื่อสารของเรา
        (27) เพื่อเข้าซื้อหรืออาจจำหน่าย หนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งธุรกิจ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
        (28) เพื่อดำเนินการอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใดๆ ข้างต้น

เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ข้างต้น ภายใต้ฐานทางกฎหมายใดๆ ดังต่อไปนี้
        (1) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
        (2) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
        (3) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นนอกเหนือไปจากเรา
        (4) เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
        (5) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของเรา หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบให้แก่เรา
        (6) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
        (7) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายกำหนด
        (8) ความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับเรา

หากเราอาศัยความยินยอมจากท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านย่อมไม่กระทบถึงกิจกรรมที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว ก่อนการถอนความยินยอม

เว้นแต่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับจะอนุญาตให้กระทำเป็นอย่างอื่น เราจะแจ้งและขอความยินยอมจากท่าน หากเราประสงค์จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ หรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนโยบายฉบับนี้

4. บุคคลใดบ้างที่อาจจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากเรา
เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้หลักความจำเป็นที่ต้องทราบข้อมูล (Need to Know basis) เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตาม ที่ระบุข้างต้น และหรือในกรณีที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาตให้กระทำได้ ให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลต่างๆ ดังต่อไปนี้
        (1) กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน หรือบุคลากรภายในของเราที่เกี่ยวข้อง และจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้
        (2) บุคคลใดก็ตามที่ได้รับอนุญาตให้กระทำการในฐานะบุคลากรและคู่ค้าของเรา เพื่อทำการเชิญชวน ชักชวน ชี้ช่อง จัดการให้ทำ เสนอขาย ขาย จัดจำหน่าย หรือให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และหรือบริการที่เสนอโดยเรา ให้แก่ท่าน รวมถึง ส่งมอบผลิตภัณฑ์และหรือบริการของเรา ที่มีการเสนอขาย หรือขายให้แก่ท่าน เช่น บริษัทประกันภัยต่อ บริษัทจัดการการลงทุน สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ บริษัทต่างๆ ซึ่งทำการสืบสวน หรือคู่ค้ารายอื่นๆ
        (3) ผู้ถือกรมธรรม์ ในกรณีของผลิตภัณฑ์ประกันภัยแบบกลุ่ม
        (4) ผู้แนะนำการลงทุน และหรือผู้วางแผนการลงทุน ในกรณีของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (“Unit Link”)
        (5) บุคคลใดก็ตามที่ได้รับการว่าจ้าง หรือเข้าทำสัญญาเพื่อปฏิบัติงานให้แก่บุคลากรและคู่ค้าของเราดังกล่าว เพื่อทำการเชิญชวน ชักชวน ชี้ช่อง จัดการให้ทำ เสนอขาย ขาย จัดจำหน่าย หรือให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และหรือบริการที่เสนอโดยเราให้แก่ท่าน
        (6) บุคลากรและคู่ค้าของเราไม่ว่ารายใดก็ตาม ซึ่งให้บริการเกี่ยวกับการจัดการต่างๆ การให้บริการประมวลผลข้อมูลบริการเกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจ บริการเกี่ยวกับการชำระเงิน การทวงหนี้ หรือการหักบัญชีหลักทรัพย์ บริการโทรคมนาคม บริการด้านเทคโนโลยี บริการคลาวด์ บริการจัดหาผู้รับจ้างปฏิบัติงาน บริการคอลเซ็นเตอร์ บริการจัดเก็บของ การดำเนินการเกี่ยวกับเอกสาร บริการเก็บบันทึกข้อมูล บริการสแกนเอกสาร บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการจัดพิมพ์ บริการส่งพัสดุหรือบริการรับส่งพัสดุโดยพนักงานรับส่งพัสดุ บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการตลาด บริการทำการวิจัย บริการบริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน บริการทางกฎหมาย หรือบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของเรา หรือการจัดให้มีการบริหารจัดการ การดำเนินการ การปฏิบัติตามขั้นตอนหรือการจัดการต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราให้แก่ท่าน
        (7) บุคคลภายนอกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัทประกันภัย นายหน้าประกันชีวิต ตัวแทนประกันชีวิต นักคณิตศาสตร์ประกันภัย บริษัทประกันภัยต่อ สำนักงานสาขาในไทยของบริษัทประกันภัยต่างประเทศ โรงพยาบาล ศูนย์กู้ชีพ แพทยสภา ธนาคารหรือสถาบันการเงิน ศูนย์บริหารจัดการกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการค่าสินไหมทดแทน (TPA) ผู้เอาประกันภัย ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัย ผู้ชำระเบี้ยประกันภัย พยาน ผู้รับผลประโยชน์ ทายาทโดยธรรม ผู้มีส่วนได้เสีย คู่พิพาท คู่กรณี ผู้เสียหาย ผู้รับมอบอำนาจ เจ้าหนี้หรือลูกหนี้ของเรา บุคคลอื่นใดที่มีความสัมพันธ์ ธุรกรรม หรือติดต่อกับเรา เป็นต้น
        (8) สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมหรือสมาพันธ์อื่นๆ ในภาคธุรกิจประกันภัย และผู้ประกอบธุรกิจประกันอื่นๆ
        (9) แหล่งข้อมูลที่เป็นบุคคลภายนอก (ตามข้อ 2.3(3))
        (10) หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย คณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือบุคคลอื่นใดในประเทศที่เราต้องเปิดเผยข้อมูลให้ตามหน้าที่ตามกฎหมายและหรือตามหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบในประเทศไทย หรือตามข้อตกลง นโยบายระหว่างเรา กับรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
        (11) หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานอื่นตามภารกิจ อำนาจหน้าที่ กฎหมาย และข้อผูกพันในการดำเนินงานของเราทั้งในและต่างประเทศ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย คณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือบุคคลอื่นใดในประเทศที่เราต้องเปิดเผยข้อมูลให้ตามหน้าที่ตามกฎหมายและหรือตามหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบในประเทศไทย หรือตามข้อตกลง นโยบายระหว่างเรากับรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
        (12) ผู้ให้คำปรึกษาของเรา ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ อาทิเช่น ทนายความ แพทย์ ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายใน/ภายนอก หรือที่ปรึกษา
        (13) บุคคลหรือหน่วยงานใดๆ ที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้นๆ ได้
        (14) ผู้เข้าทำธุรกรรม หรือจะเข้าทำธุรกรรมกับเราโดยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขาย หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายของกิจการของเรา (หากมี)
        (15) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ใช้บังคับ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น เราจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น และเราจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

5. การโอนข้อมูลไปยังประเทศอื่น/การโอนข้อมูลข้ามประเทศ
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนไป ถูกจัดเก็บไว้ หรือประมวลผลโดยเรา หรืออาจถูกส่งให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานใดๆ ตามรายละเอียดข้างต้น ซึ่งอาจมีที่ตั้งหรืออาจให้บริการอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทย ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกโอนไปยังสถานที่อื่นๆ ตามเงื่อนไขที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยหากเป็นการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระหว่างกลุ่มบริษัท เราจะดำเนินการตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในกลุ่มบริษัท (Binding Corporate Rules) ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (หากมี) หรือจัดให้มีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสม สามารถบังคับตามสิทธิของท่านได้ รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด แล้วแต่กรณี

6. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เราอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุข้างต้น โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ

ทั้งนี้ เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เกิน 11 ปี นับแต่วันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือการติดต่อครั้งสุดท้ายกับเรา เราอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนด หากกฎหมายอนุญาต หรือเป็นการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลบนฐานการประมวลผลอื่น หรือกรณีมีความจำเป็นอื่นเพิ่มเติม โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้นั้น และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติทางธุรกิจสำหรับแต่ละประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวมเป็นสำคัญ
เราจะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่าน ตามระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น โดยอาจไม่มีการแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า

7. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและช่องทางการขอใช้สิทธิ
ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้
        (1) สิทธิในการถอนความยินยอม หรือร้องขอให้เปลี่ยนแปลงขอบเขตความยินยอมของท่านที่ได้ให้ไว้กับเราในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
        (2) สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเรา หรือขอให้เราเปิดเผยแหล่งที่มาที่เราได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอม โดยเราจะมีการกำหนดขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อยืนยันตัวตนของท่านก่อน
        (3) สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน ในกรณีที่เราได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังบุคคลหรือองค์กรอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
        (4) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
        (5) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ห รือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
        (6) สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
        (7) สิทธิในการขอให้ปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
        (8) สิทธิในการร้องเรียนตามที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ เราจะดำเนินการตามสิทธิของท่าน เมื่อมีการร้องขอตามช่องทางการขอใช้สิทธิด้านล่าง โดยเราอาจขอสงวนสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับจะอนุญาต ทั้งนี้ หากเราไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้ เราจะทำการบันทึกการปฏิเสธคำขอของท่านพร้อมเหตุผลไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม เราขอสงวนสิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับคำขอใช้สิทธิข้างต้น

ช่องทางการขอใช้สิทธิ
ท่านสามารถส่งคำร้องขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามช่องทางด้านล่าง
        บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
        177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
        โทรศัพท์ 0-2634-7323 โทรสาร 0-2634-7331 เวลาทำการ 08.00 น. – 17.00 น.
        E-mail: BuiL_Care@builife.com

8. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ
เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นครั้งคราว ในกรณีดังกล่าวนั้น เราจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้ใช้อำนาจปกครอง (ในกรณีของผู้เยาว์) จากผู้อนุบาล (กรณีของผู้ไร้ความสามารถ) และจากผู้พิทักษ์ (กรณีของผู้เสมือนไร้ความสามารถ) ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

กรณีที่เราไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่าเราได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยยังมิได้รับความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด เราจะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็วหากเราไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว

9. ความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เราได้จัดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมทั้งในเชิงเทคนิค เชิงกายภาพ และเชิงบริหารจัดการ เพื่อให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการสูญหาย ทำลาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ เพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้เก็บรวบรวมไว้ มีระดับการรักษาความปลอดภัยที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด

10. การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์และบริการของบุคคลภายนอก
บางส่วนของเว็บไซต์ของเราอาจมีลิงค์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายฉบับนี้ เราขอแนะนำให้ท่านใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบุคคลที่สามเหล่านั้นโดยละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ เราไม่มีความรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบุคคลที่สามดังกล่าว

11. การประมวลผลเพื่อการดำเนินการส่งเสริมการขาย
เราอาจจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ อีเมล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ (ซึ่งรวมถึงหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่) และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ดังระบุในนโยบายฉบับนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การส่งเนื้อหาเพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่ท่านจะได้รับจากการเป็นลูกค้าของเรา ผ่านการแนะนำของผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขายและการสื่อสารการตลาดทางตรงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และหรือบริการของเรา คำแนะนำและให้ข้อมูลในเรื่องต่างๆ ซึ่งรวมถึงแบบประกันชีวิตและสุขภาพ และประกันบำนาญ รวมถึงบริการเกี่ยวกับการบริหารความมั่งคั่ง การลงทุน การธนาคาร บริการทางการเงิน การรักษาทางการแพทย์ การรักษาเกี่ยวกับสุขภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ โปรแกรมให้รางวัล/ให้ผลประโยชน์สำหรับการเป็นลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์/ให้สิทธิพิเศษ กิจกรรมการกุศล/กิจกรรมที่ไม่หวังผล และการจัดกิจกรรมทางการตลาด การประกวด จับฉลากชิงโชค งานอีเว้นท์ และการแข่งขันต่างๆ ซึ่งท่านเลือกที่จะเข้าร่วม

โดยในการดำเนินการดังกล่าวนี้ เราอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคลากรและคู่ค้าของเราที่เป็นผู้ให้ข้อมูลที่จะส่งให้ท่านเพื่อทำการตลาด และให้บริการคอลเซ็นเตอร์ หรือให้บริการทางการตลาดหรือการวิจัยใดๆ เพื่อที่บุคคลดังกล่าวจะสามารถส่งมอบข่าวสาร กิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของเรา หรือดำเนินการใดๆ เพื่อให้เราบรรลุวัตถุประสงค์นี้ โดยรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายฉบับนี้

หากท่านไม่ต้องการรับการสื่อสารการตลาดทางตรงใดๆ จากเรา ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ โดยแจ้งให้เราทราบผ่านช่องทางการติดต่อดังระบุในนโยบายฉบับนี้หรือคลิกที่ลิงก์ unsubscribe ที่ด้านล่างอีเมลแต่ละฉบับ หรือการส่งข้อความสั้น (SMS) ที่ท่านอาจได้รับ ทั้งนี้ การที่ท่านถอนความยินยอมด้วยวิธี unsubscribe นั้น จะทำให้ท่านไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารตามช่องทางที่ท่าน unsubscribe อีก

12. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้
เราขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวเท่าที่กฎหมายอนุญาต เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และเราจะประกาศนโยบายที่มีการดำเนินการดังกล่าวในเว็บไซต์ของเรา โดยหากการดำเนินการดังกล่าวนั้นเป็นสาระสำคัญของนโยบายฉบับนี้ เราจะแจ้งการแก้ไข การเพิ่มเติม การเปลี่ยนแปลง การปรับปรุง หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายให้ท่านทราบด้วยช่องทางที่เหมาะสม และหากจำเป็น เราอาจขอความยินยอมจากท่านเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ท่านตรวจสอบทบทวนเพื่อรับทราบนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวผ่านเว็บไซต์ของเรา หรือช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่เราดำเนินการ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เรา

13. ข้อมูลเพิ่มเติมและช่องทางการติดต่อสอบถาม
        ชื่อ:บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
        ที่อยู่:177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
        ช่องทางการติดต่อ: 0-2634-7323 โทรสาร 0-2634-7331 เวลาทำการ 08.00 น. – 17.00 น.
        E-mail:BuiL_Service@builife.com
        เว็บไซต์:www.builife.com

        เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
        ที่อยู่:177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
        ช่องทางการติดต่อ: 0-2634-7323 โทรสาร 0-2634-7331 เวลาทำการ 08.00 น. – 17.00 น.
        E-mail:DPO@builife.com




นโยบายฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2565

 

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับคู่สัญญา



ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับคู่สัญญา

(Privacy Notice)

     บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตระหนักบริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (ต่อไปจะเรียกว่า “เรา”) ตระหนักดีถึงสิทธิความเป็นส่วนตัวซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานสำคัญที่ต้องได้รับความคุ้มครองและความรับผิดชอบของเราเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และหรือการส่งหรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่น
     บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตระหนักเรายึดมั่นค่านิยมที่ถือว่า ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นที่ท่านมีให้แก่เรา เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับเรา ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะจัดการให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด ดังนั้นเราจึงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น (“นโยบาย”) เพื่อชี้แจงถึงรายละเอียดและวิธีการที่เราจะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับจากท่าน รวมทั้งสาระสำคัญในเรื่องต่างๆ อาทิ วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผู้ที่เราอาจจะเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปให้ ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ตลอดจนแจ้งให้ทราบถึงสิทธิต่างๆ ของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงช่องทางการขอใช้สิทธิดังกล่าว
    เราจึงขอให้ท่านศึกษาและทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้อย่างละเอียด ดังนี้

1. คำจำกัดความ
ให้นำคำจำกัดความตามที่ได้ระบุไว้ในกฎหมายมาปรับใช้กับนโยบายฉบับนี้โดยอนุโลม ทั้งนี้ เว้นแต่จะได้ระบุหรือให้คำจำกัดความนั้นไว้เป็นอย่างอื่นในนโยบายนี้
        “ท่าน” หมายถึง ฝ่ายขายและคู่ค้าของเรา รวมถึงบุคคลธรรมดา บุคลากร พนักงาน ผู้รับมอบอำนาจ ตัวแทนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลที่มีการติดต่อ ปฏิสัมพันธ์ เข้าทำกิจกรรม ธุรกรรม และหรือทำสัญญาใดๆ กับเรา ตลอดจนให้รวมถึงบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันด้วย
        “ฝ่ายขาย” หมายถึง ตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิตที่เราอนุญาตให้ทำการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของเรา โดยให้รวมถึงตัวแทนประกันชีวิตฝึกหัด และผู้สมัครหรือผู้สนใจสมัครเข้าเป็นตัวแทนประกันชีวิตของเราด้วย
        “คู่ค้า”หมายถึง ผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างช่วง ผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการช่วง หรือตัวแทน บุคลากร ผู้รับมอบอำนาจของผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างช่วง ผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการช่วงของเรา ซึ่งให้บริการเกี่ยวกับการจัดการต่างๆ การให้บริการประมวลผลข้อมูลบริการเกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจ บริการเกี่ยวกับการชำระเงิน การทวงหนี้ หรือการหักบัญชีหลักทรัพย์ บริการโทรคมนาคม บริการด้านเทคโนโลยี บริการคลาวด์ บริการจัดหาผู้รับจ้างปฏิบัติงาน บริการคอลเซ็นเตอร์ บริการจัดเก็บของ การดำเนินการเกี่ยวกับเอกสาร บริการเก็บบันทึกข้อมูล บริการสแกนเอกสาร บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการจัดพิมพ์ บริการส่งพัสดุหรือบริการรับส่งพัสดุโดยพนักงานรับส่งพัสดุ บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการตลาด บริการทำการวิจัย บริการบริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน บริการทางกฎหมาย หรือบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของเรา หรือการจัดให้มีการบริหารจัดการ การดำเนินการ การปฏิบัติตามขั้นตอนหรือการจัดการต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราให้แก่ท่าน
        “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ในอนาคต
        “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคลแต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

        “การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระบบ การจัดโครงสร้าง การจัดเก็บ การดัดแปลง การปรับเปลี่ยน การกู้คืน การใช้ การเปิดเผยโดยการส่ง การโอน การเผยแพร่ การทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใดๆ การจัดเรียง การนำมารวมกัน การห้ามเข้าถึงหรือจำกัด การลบ หรือการทำลาย และหมายรวมถึงการดำเนินการใดๆ เพื่อปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน เป็นต้น

1. ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่เราจะเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมภายใต้นโยบายฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับเราโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับมาจากบุคคลภายนอก (ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) อาจประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้
        (1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ – นามสกุล ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หรือรายละเอียดการติดต่ออื่นๆ เพศ สัญชาติ สถานภาพการสมรส วัน/เดือน/ปีเกิด เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง
        (2) ข้อมูลเกี่ยวกับคุณวุฒิและประวัติการทำงานของท่าน อาทิ คุณวุฒิการศึกษาจากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย รวมถึงหนังสือรับรองและหนังสืออ้างอิงจากสถาบันการศึกษา
        (3) ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงานของท่าน เช่น ประวัติส่วนตัว ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน และหลักฐานหรือหนังสืออ้างอิงต่างๆ
        (4) ข้อมูลรายละเอียดการทำงานพื้นฐาน เช่น รายละเอียดสถานที่ทำงานของท่าน หมายเลขใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันชีวิต รายละเอียดหน่วยงานต้นสังกัด ตำแหน่ง สายการบังคับบัญชา และข้อตกลงและเงื่อนไขของการเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันชีวิต
        (5) ข้อมูลประวัติเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงการประเมินผลการปฏิบัติงาน รางวัลที่เคยได้รับ ประวัติการถูกร้องเรียน บันทึกการสอบสวน การถูกเพิกถอนใบอนุญาตเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันชีวิต การถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันชีวิต และโทษทางวินัย รวมถึงการตรวจสอบและการประเมินความเสี่ยง
        (6) ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าตอบแทน เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับค่าบำเหน็จ และหรือผลประโยชน์อื่นๆ ที่ท่านได้รับ เลขบัญชีธนาคาร กองทุนประกันสังคม ข้อมูลทางภาษี ข้อมูลของบุคคลภายนอกผู้ได้รับผลประโยชน์
        (7) ข้อมูลของท่านกรณีที่ท่านดำเนินการแทนหรือเพื่อนิติบุคคล เช่น ข้อมูลของท่านที่ปรากฏในหนังสือรับรองบริษัท บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือเอกสารเกี่ยวกับนิติบุคคลอื่นใดที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
        (8) ข้อมูลอื่นใดที่เราร้องขอจากนิติบุคคลของท่าน หรือจากท่านเพื่อใช้ในการประกอบการเข้าทำสัญญา การบริการ หรือการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ตามที่เราได้แจ้งหรือร้องขอไปยังท่าน
        (9) ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการถูกดำเนินคดีความของท่าน เช่น ประวัติอาชญากรรม บันทึกเกี่ยวกับการดำเนินคดีไม่ว่าทางแพ่ง หรือการดำเนินคดีอื่นๆ รวมไปถึงรายงานของตำรวจ และคำสั่งศาลที่เกี่ยวข้อง
        (10) ข้อมูลประวัติเกี่ยวกับล้มละลาย การฟอกเงิน หรือการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายการ
        (11) ข้อมูลอื่นๆ เช่น บันทึกภาพและเสียงผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ บันทึกเสียงการสนทนา ลายนิ้วมือเมื่อท่านเข้ามาในที่ทำการ สำนักงาน หรืออาคารของเรา เป็นต้น

เรามีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) ของท่าน เช่น ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา เพื่อประกอบการตรวจสอบในการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือนิติบุคคลที่ท่านดำเนินการแทน หรือตรวจสอบเพื่อป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อการร้าย เป็นต้น ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ เราจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หรือตามที่ตกลงกันในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

2. เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
โดยทั่วไปเราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงจากท่าน เช่น จากการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือจากการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของท่าน อย่างไรก็ตาม บางกรณีเราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากบุคคลอื่นที่แนะนำท่านให้เรา จากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน แหล่งข้อมูลทางการค้า แหล่งข้อมูลของหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานกำกับต่างๆ แหล่งข้อมูลของภาคธุรกิจประกันภัย ธุรกิจการเงิน หรือธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน เราจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

การที่ท่านเลือกที่จะไม่ให้เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลบางประการที่เราร้องขอ หรือการที่ท่านไม่ให้ความยินยอมหรือยกเลิกการให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้เราไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่เข้าทำกับท่านหรือเข้าทำสัญญากับท่านได้ หรืออาจไม่สามารถให้บริการต่างๆ เกี่ยวกับสัญญาที่เราทำกับท่านได้ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ในกรณีดังกล่าว เราอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกสัญญากับท่าน

เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่เรา ท่านต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการขอความยินยอม หรือแจ้งนโยบายฉบับนี้แก่บุคคลภายนอกในนามของเรา เพื่อให้เราสามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในนโยบายฉบับนี้ และในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นอกจากนี้ ท่านรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น พร้อมทั้งรับรองและรับประกันว่าบุคคลเหล่านั้นได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่เรา และท่านได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับรายละเอียดตามนโยบายฉบับนี้

ตราบเท่าที่กฎหมายอนุญาต ท่านตกลงเพิ่มเติมที่จะดำเนินการให้เราได้รับการชดใช้อย่างเต็มที่ ต่อความเสียหาย ความสูญเสีย การลงโทษ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับการดำเนินคดี ไม่ว่าในประการใดๆ ซึ่งรวมถึงค่าปรับ เบี้ยปรับ ดอกเบี้ย เงินเพิ่ม หรือเงินอื่นๆ ที่เรียกเก็บ เรียกปรับ หรือเก็บโดยหน่วยงานกำกับดูแลหรือหน่วยงานที่มีอำนาจออกกฎระเบียบ อันเกิดจากหรือเกี่ยวเนื่องกับการกระทำหรือการละเว้นไม่กระทำของท่าน (หรือของเจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้ให้คำปรึกษา ตัวแทน หรือผู้แทนของท่าน) ความผิดหรือความประมาทเลินเล่อของท่านในการปฏิบัติหน้าที่เหล่านั้น หรือที่ส่งผลให้เราถูกกล่าวหาหรือลงโทษฐานฝ่าฝืนกฎหมายที่ใช้บังคับ

3. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
        (1) เพื่อการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือนิติบุคคลที่ท่านดำเนินการแทน หรือเพื่อการปฏิบัติตามสิทธิหน้าที่ที่มีตามสัญญาที่เราเข้าทำกับท่าน นิติบุคคลที่ท่านดำเนินการแทน เช่น การชำระค่าใช้จ่ายหรือค่าตอบแทนตามสัญญา เป็นต้น
        (2) เพื่อการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของท่าน และหรือนิติบุคคลที่ท่านดำเนินการแทน
        (3) เพื่อการตรวจสอบประวัติก่อนและระหว่างเข้าทำสัญญากับท่าน หรือนิติบุคคลที่ท่านดำเนินการแทน และอาจมีการตรวจสอบรายละเอียดดังกล่าวระหว่างระยะเวลาตามสัญญาที่ทำกับท่าน หรือนิติบุคคลที่ท่านดำเนินการแทน
        (4) เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการธุรกิจตัวแทนประกันชีวิตและหรือนายหน้าประกันชีวิต รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการวางแผนกำลังคน การจ่ายผลประโยชน์ ค่าตอบแทน การคิดค่าตอบแทนที่จูงใจ ข้อเสนอ รางวัล การประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ การรายงานหรือตรวจสอบภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล การแข่งขันการขายต่างๆ การติดต่อสื่อสาร การประกาศ การทำแบบสำรวจ สถิติ ตรวจสอบข้อร้องเรียนและประเด็นของการประพฤติตัวไม่เหมาะสม หรือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางวินัย การตรวจสอบข้อมูลของท่านทางกฎหมาย ความสามารถในทางการทำงาน การร้องขอข้อมูลใดๆ โดยรัฐบาลไม่ว่าจะเพื่อเหตุใด ตลอดจนเพื่อการประกอบกิจการของกลุ่มเรา ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง จัดทำบันทึกข้อมูลตัวแทน การทำประกัน การตรวจสอบอ้างอิงและประวัติโดยสมาชิกใดๆ ของกลุ่มเราหรือบุคคลอื่น การหลีกเลี่ยงการขัดกันของผลประโยชน์ หรือหลีกเลี่ยงแนวโน้มที่จะเกิดการขัดกันของผลประโยชน์ และการตรวจสอบใดๆ ของกลุ่มเรา นอกจากนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านยังอาจจะถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลตามกฎหมายทั้งในและนอกประเทศของท่านแล้วแต่กรณี
        (5) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะประกาศ ระเบียบ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
        (6) เพื่อการก่อตั้ง การปฏิบัติตาม การใช้ การโต้แย้ง การดำเนินการ หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของเรา
        (7) เพื่อการติดต่อ และการดำเนินธุรกิจของเราตลอดระยะเวลาที่เรายังมีความสัมพันธ์กับท่าน หรือนิติบุคคลที่ท่านดำเนินการแทน
        (8) เพื่อการเก็บรวมรวบ ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อประโยชน์ในการกำกับและดูแลส่งเสริมธุรกิจประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ คปภ. ซึ่งสามารถตรวจดูได้ที่เว็บไซต์ของ คปภ. (https://www.oic.or.th)
        (9) เพื่อดำเนินการอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใดๆ ข้างต้น
        (10) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่เราแจ้งให้ท่านทราบ ณ เวลาที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ข้างต้น ภายใต้ฐานทางกฎหมายใดๆ ดังต่อไปนี้
        (1) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
        (2) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
        (3) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นนอกเหนือไปจากเรา
        (4) เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
        (5) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของเรา หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบให้แก่เรา
        (6) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
        (7) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายกำหนด
        (8) ความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับเรา

หากเราอาศัยความยินยอมจากท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านย่อมไม่กระทบถึงกิจกรรมที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนการถอนความยินยอม

เว้นแต่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับจะอนุญาตให้กระทำเป็นอย่างอื่น เราจะแจ้งและขอความยินยอมจากท่าน หากเราประสงค์จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ หรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนโยบายฉบับนี้
4. บุคคลใดบ้างที่อาจจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากเรา
เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้หลักความจำเป็นที่ต้องทราบข้อมูล (Need to Know basis) เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุข้างต้น และหรือในกรณีที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาตให้กระทำได้ ให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลต่างๆ ดังต่อไปนี้
        (1) กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน หรือบุคลากรภายในของเราที่เกี่ยวข้อง และจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้
        (2) ตัวแทน นายหน้าประกันชีวิต หรือพันธมิตรทางธุรกิจของเรา เพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมหรือกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันกันสร้างผลงานหรือสร้างแรงจูงใจ
        (3) ผู้ให้คำปรึกษาของเรา ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ อาทิเช่น ทนายความ แพทย์ ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายใน/ภายนอก หรือที่ปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญภายในหรือภายนอกของเรา
        (4) องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย เช่น สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมหรือสมาพันธ์อื่นๆ ในภาคธุรกิจประกันภัย และผู้ประกอบธุรกิจประกันอื่นๆ
        (5) หน่วยงานรัฐใดๆ ทางด้านภาษี กฎเกณฑ์ หรือผู้ซึ่งมีอำนาจเหนือเรา ตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามที่มีการร้องขอเพื่อให้เปิดเผยเพื่อผลประโยชน์ของเราหรือเปิดเผยเพื่อประโยชน์สาธารณะ
        (6) หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย คณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือบุคคลอื่นใดในประเทศที่เราต้องเปิดเผยข้อมูลให้ตามหน้าที่ตามกฎหมายและหรือตามหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบในประเทศไทย หรือตามข้อตกลง นโยบายระหว่างเรา กับรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
        (7) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กรมการปกครอง กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสรรพากร ศาล เป็นต้น
        (8) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ใช้บังคับ
        (9) บุคคลหรือหน่วยงานใดๆ ที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้นๆ ได้

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น เราจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น และเราจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐาน และหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

5. การโอนข้อมูลไปยังประเทศอื่น/การโอนข้อมูลข้ามประเทศ
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนไป ถูกจัดเก็บไว้ หรือประมวลผลโดยเรา หรืออาจถูกส่งให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานใดๆ ตามรายละเอียดข้างต้น ซึ่งอาจมีที่ตั้งหรืออาจให้บริการอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทย ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกโอนไปยังสถานที่อื่นๆ ตามเงื่อนไขที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยหากเป็นการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระหว่างกลุ่มบริษัท เราจะดำเนินการตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในกลุ่มบริษัท (Binding Corporate Rules) ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (หากมี) หรือจัดให้มีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสม สามารถบังคับตามสิทธิของท่านได้ รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด แล้วแต่กรณี

6. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เราอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุข้างต้น โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ
ทั้งนี้ เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เกิน 11 ปี นับแต่วันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือการติดต่อครั้งสุดท้ายกับเรา เราอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนด หากกฎหมายอนุญาต หรือเป็นการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลบนฐานการประมวลผลอื่น หรือกรณีมีความจำเป็นอื่นเพิ่มเติม โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้นั้น และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติทางธุรกิจสำหรับแต่ละประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวมเป็นสำคัญ
เราจะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่าน ตามระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น โดยอาจไม่มีการแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า

7. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและช่องทางการขอใช้สิทธิ
ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้
        (1) สิทธิในการถอนความยินยอม หรือร้องขอให้เปลี่ยนแปลงขอบเขตความยินยอมของท่านที่ได้ให้ไว้กับเราในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
        (2) สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเรา หรือขอให้เราเปิดเผยแหล่งที่มาที่เราได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอม โดยเราจะมีการกำหนดขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อยืนยันตัวตนของท่านก่อน
        (3) สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน ในกรณีที่เราได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังบุคคลหรือองค์กรอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
        (4) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
        (5) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
        (6) สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
        (7) สิทธิในการขอให้ปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
        (8) สิทธิในการร้องเรียนตามที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ เราจะดำเนินการตามสิทธิของท่าน เมื่อมีการร้องขอตามช่องทางการขอใช้สิทธิด้านล่าง โดยเราอาจขอสงวนสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับจะอนุญาต ทั้งนี้ หากเราไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้ เราจะทำการบันทึกการปฏิเสธคำขอของท่านพร้อมเหตุผลไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม เราขอสงวนสิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับคำขอใช้สิทธิข้างต้น

ช่องทางการขอใช้สิทธิ
ท่านสามารถส่งคำร้องขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามช่องทางด้านล่าง
        บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
        177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
        โทรศัพท์ 0-2634-7323 โทรสาร 0-2634-7331 เวลาทำการ 08.00 น. – 17.00 น.
        E-mail: BuiL_Care@builife.com

8. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ
เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นครั้งคราว ในกรณีดังกล่าวนั้น เราจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้ใช้อำนาจปกครอง (ในกรณีของผู้เยาว์) จากผู้อนุบาล (กรณีของผู้ไร้ความสามารถ) และจากผู้พิทักษ์ (กรณีของผู้เสมือนไร้ความสามารถ) ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

กรณีที่เราไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่าเราได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยยังมิได้รับความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด เราจะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็วหากเราไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว

9. ความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เราได้จัดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมทั้งในเชิงเทคนิค เชิงกายภาพ และเชิงบริหารจัดการ เพื่อให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการสูญหาย ทำลาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ เพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้เก็บรวบรวมไว้ มีระดับการรักษาความปลอดภัยที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด

10. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้
เราขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวเท่าที่กฎหมายอนุญาต เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และเราจะประกาศนโยบายที่มีการดำเนินการดังกล่าวในเว็บไซต์ของเรา โดยหากการดำเนินการดังกล่าวนั้นเป็นสาระสำคัญของนโยบายฉบับนี้ เราจะแจ้งการแก้ไข การเพิ่มเติม การเปลี่ยนแปลง การปรับปรุง หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายให้ท่านทราบด้วยช่องทางที่เหมาะสม และหากจำเป็น เราอาจขอความยินยอมจากท่านเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ท่านตรวจสอบทบทวนเพื่อรับทราบนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวผ่านเว็บไซต์ของเรา หรือช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่เราดำเนินการ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เรา

11. ข้อมูลเพิ่มเติมและช่องทางการติดต่อสอบถาม
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาส่วนใดๆ ในนโยบายฉบับนี้ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของเราเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาติดต่อเราที่

        ชื่อ: บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
        ที่อยู่: 177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
        ช่องทางการติดต่อ: 0-2634-7323 โทรสาร 0-2634-7331 เวลาทำการ 08.00 น. – 17.00 น.
        E-mail: BuiL_Service@builife.com
        เว็บไซต์: www.builife.com

        เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
        ที่อยู่: 177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
        ช่องทางการติดต่อ: 0-2634-7323 โทรสาร 0-2634-7331 เวลาทำการ 08.00 น. – 17.00 น.
        E-mail: DPO@builife.com





นโยบายฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2565

 

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับพนักงาน



ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับพนักงาน

(Privacy Notice)

        บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (ต่อไปจะเรียกว่า “เรา”) ตระหนักดีถึงสิทธิความเป็นส่วนตัวซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานสำคัญที่ต้องได้รับความคุ้มครองและความรับผิดชอบของเราเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และหรือการส่งหรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่น
        เรายึดมั่นค่านิยมที่ถือว่า ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นที่ท่านมีให้แก่เรา เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับเรา ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะจัดการให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด ดังนั้นเราจึงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น (“นโยบาย”) เพื่อชี้แจงถึงรายละเอียดและวิธีการที่เราจะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับจากท่าน รวมทั้งสาระสำคัญในเรื่องต่างๆ อาทิ วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผู้ที่เราอาจจะเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปให้ ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ตลอดจนแจ้งให้ทราบถึงสิทธิต่างๆ ของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงช่องทางการขอใช้สิทธิดังกล่าว
        เราจึงขอให้ท่านศึกษาและทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้อย่างละเอียด ดังนี้
1. คำจำกัดความ
ให้นำคำจำกัดความตามที่ได้ระบุไว้ในกฎหมายมาปรับใช้กับนโยบายฉบับนี้โดยอนุโลม ทั้งนี้ เว้นแต่จะได้ระบุหรือให้คำจำกัดความนั้นไว้เป็นอย่างอื่นในนโยบายนี้
        “ท่าน” หมายถึง พนักงานและหรือบุคลากรของบริษัท อาทิ กรรมการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว ผู้ฝึกหัดงาน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน รวมถึงผู้สมัครงาน ตลอดจนบุคคลซึ่งสิ้นสถานภาพดังกล่าวแล้ว
        “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ในอนาคต
        “ข้อมูลส่วนบุคคล”หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
        “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคลแต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
        “การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระบบ การจัดโครงสร้าง การจัดเก็บ การดัดแปลง การปรับเปลี่ยน การกู้คืน การใช้ การเปิดเผยโดยการส่ง การโอน การเผยแพร่ การทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใดๆ การจัดเรียง การนำมารวมกัน การห้ามเข้าถึงหรือจำกัด การลบ หรือการทำลาย และหมายรวมถึงการดำเนินการใดๆ เพื่อปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน เป็นต้น
1. ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่เราจะเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมภายใต้นโยบายฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับเราโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับมาจากบุคคลภายนอก (ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) อาจประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้
        (1) ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เช่น ชื่อนามสกุล ชื่อเล่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ อาชีพ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง กรุ๊ปเลือด โรคประจำตัว ความพิการ เลขที่หนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ สัญชาติ ศาสนา สถานภาพทางการสมรส รูปถ่าย ข้อมูลบุคคลในครอบครัว สถานที่เกิด เลขที่ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์/รถจักรยานยนต์ วันหมดอายุใบอนุญาตขับขี่รถยนต์/รถจักรยานยนต์ ประวัติการรับราชการทหาร เป็นต้น
        (2) ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์บ้าน หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่เพื่อจัดส่งไปรษณีย์ แผนที่ที่พักอาศัย อีเมล ข้อมูลการติดต่อทาง Social Media (เช่น บัญชี Line, Facebook เป็นต้น) รายละเอียดบุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
        (3) ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา การฝึกอบรม เช่น ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม หนังสือรับรองคุณวุฒิหรือใบแสดงผลการศึกษา ผลคะแนนหรือระดับคะแนน ระดับการศึกษา สถานที่ศึกษา ระยะเวลาศึกษาและฝึกอบรม หนังสือรับรองและหนังสืออ้างอิงจากสถาบันการศึกษา ความสามารถทางภาษา ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการอบรมและข้อมูลการทดสอบซึ่งจัดโดยเราหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตร เป็นต้น
        (4) ข้อมูลใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เช่น ใบอนุญาตว่าความ ใบอนุญาตเป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัย ใบอนุญาตผู้สอบบัญชี ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เป็นต้น
        (5) ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงาน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน ประสบการณ์การทำงานและรายละเอียดของงานที่รับผิดชอบ บุคคลอ้างอิง ข้อมูลผู้ค้ำประกันการทำงาน ประวัติ/หลักฐานเงินเดือนและค่าตอบแทน หลักฐานการรับรองและหรือหนังสืออ้างอิงต่างๆ
        (6) ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและตำแหน่ง เช่น รายละเอียดสถานที่ทำงาน รายละเอียดหน่วยงานต้นสังกัด รหัสพนักงาน ตำแหน่งงาน ขอบเขตงาน ประสบการณ์การทำงาน หมายเลขติดต่อภายใน สังกัด สายการบังคับบัญชา เป็นต้น
        (7) ข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินผลและประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การประเมินผลการปฏิบัติงาน ความคิดเห็น ทัศนคติและพฤติกรรมในการทำงาน ผลงานและหรือรางวัลที่เคยได้รับ การปรับ/ลดตำแหน่ง ประวัติการถูกร้องเรียน บันทึกการสอบสวนและโทษทางวินัย การระงับหรือเพิกถอนใบอนุญาต รวมถึงการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยง เป็นต้น
        (8) ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าตอบแทน เช่น รายได้ เงินเดือน ค่าจ้าง ผลตอบแทน โบนัส รายละเอียดเกี่ยวกับค่าบำเหน็จ สวัสดิการ ข้อมูลสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพ และหรือผลประโยชน์อื่นๆ ที่ท่านได้รับ เลขบัญชีธนาคาร กองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลทางภาษี ข้อมูลการหักลดหย่อนภาษี ข้อมูลของบุคคลภายนอกผู้ได้รับผลประโยชน์ เป็นต้น
        (9) ข้อมูลเกี่ยวกับสถิติทางทะเบียน เช่น วันเริ่มงาน วันครบกำหนดทดลองงาน วันและเวลาที่เข้าทำงาน วันลา วันหยุดพักผ่อนประจำปี จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา รายละเอียดการลารวมถึงสาเหตุการลา การบันทึกการใช้ระบบภายในต่างๆ เป็นต้น
        (10) ข้อมูลด้านสุขภาพและข้อมูลทางการแพทย์ของท่าน เช่น ประวัติการตรวจสุขภาพ ประวัติการรักษาพยาบาล คำถามเกี่ยวกับสุขภาพ รายละเอียดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ และข้อมูลหรือสิ่งใดๆ ที่แสดงออกมาในรูปเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิล์ม การบันทึกภาพหรือเสียงการบันทึกโดยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือสิ่งอื่นใดที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏขึ้นในเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพของบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้
        (11) ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการถูกดำเนินคดีความของท่าน เช่น ประวัติอาชญากรรม บันทึกเกี่ยวกับการดำเนินคดีไม่ว่าทางแพ่ง ทางอาญา ทางปกครอง หรือการดำเนินคดีอื่นๆ รวมไปถึงรายงานของตำรวจ และคำสั่งศาลที่เกี่ยวข้อง
        (12) ข้อมูลสถานะเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และภาวะล้มละลาย กฎหมายสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการป้องกันมิให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นบุคคลอเมริกันหลีกเลี่ยงภาษี
        (13) ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่เราได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
        (14) ข้อมูลอื่นๆ เช่น บันทึกภาพและเสียงผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ บันทึกเสียงการสนทนา ลายนิ้วมือเมื่อท่านเข้ามาในที่ทำการ สำนักงาน หรืออาคารของเรา ข้อมูลการเข้าถึงและการใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือแอปพลิเคชันของเรา เป็นต้น

ในบางกรณี เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) ของท่าน เช่น ข้อมูลสุขภาพเพื่อประเมินความสามารถในการทำงานของท่าน ประวัติอาชญากรรมเพื่อประกอบการตรวจสอบในการเข้าทำสัญญาว่าจ้างกับท่าน หรือข้อมูลชีวภาพเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่าน โดยเราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านก่อน หรือตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ เราจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หรือตามที่ตกลงกันในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

2. เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยผ่านช่องทางต่างๆ ดังต่อไปนี้
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้จากท่านโดยตรง ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่เราโดยตรง เช่น เมื่อท่านยื่นใบสมัครงานและเอกสารประกอบการสมัครงานให้แก่เรา เมื่อท่านติดต่อสื่อสารกับเรา ณ ที่ทำการของเราหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นใดที่ควบคุมดูแลโดยเรา เช่น อีเมล หรือ Social Media เมื่อท่านลงทะเบียนหรือกรอกแบบฟอร์มต่างๆ โดยทางออนไลน์หรือโดยทางเอกสาร เมื่อท่านเข้าสัมภาษณ์งาน เข้าทำสัญญาจ้างและส่งมอบเอกสารต่างๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏอยู่ให้แก่เรา เป็นต้น
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคบางอย่างโดยอัตโนมัติ เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) กิจกรรม รูปแบบการเข้าชม และข้อมูลประวัติการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของเรา หรือจากการใช้คุกกี้ หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน
2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับจากบุคคลภายนอก เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น เว็บไซต์สมัครงานของบุคคลที่สาม บุคคลอ้างอิงของท่าน ผู้ให้บริการจัดหางาน หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา แหล่งข้อมูล Social Media หรือใบสมัครงานและหรือเอกสารของบุคคลซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับท่าน ในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลในครอบครัว บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้รับผลประโยชน์ หรือผู้ค้ำประกันการทำงานของบุคคลดังกล่าว เป็นต้น

ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน เราจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

การที่ท่านเลือกที่จะไม่ให้เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลบางประการที่เราร้องขอ หรือการที่ท่านไม่ให้ความยินยอมหรือยกเลิกการให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้เราไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่เข้าทำกับท่านหรือเข้าทำสัญญากับท่านได้ ในกรณีดังกล่าว เราอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกสัญญากับท่าน หรือปฏิเสธการให้สวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับท่านไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่เรา (ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบุคคลในครอบครัว บุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้ค้ำประกันการทำงาน ผู้ได้รับผลประโยชน์) ท่านต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการขอความยินยอม หรือแจ้งนโยบายฉบับนี้แก่บุคคลภายนอกในนามของเรา เพื่อให้เราสามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในนโยบายฉบับนี้ และในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นอกจากนี้ ท่านรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น พร้อมทั้งรับรองและรับประกันว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับรายละเอียดตามนโยบายฉบับนี้

ตราบเท่าที่กฎหมายอนุญาต ท่านตกลงเพิ่มเติมที่จะดำเนินการให้เราได้รับการชดใช้อย่างเต็มที่ ต่อความเสียหาย ความสูญเสีย การลงโทษ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับการดำเนินคดี ไม่ว่าในประการใดๆ ซึ่งรวมถึงค่าปรับ เบี้ยปรับ ดอกเบี้ย เงินเพิ่ม หรือเงินอื่นๆ ที่เรียกเก็บ เรียกปรับ หรือเก็บโดยหน่วยงานกำกับดูแลหรือหน่วยงานที่มีอำนาจออกกฎระเบียบ อันเกิดจากหรือเกี่ยวเนื่องกับการกระทำหรือการละเว้นไม่กระทำของท่าน ความผิดหรือความประมาทเลินเล่อของท่านในการปฏิบัติหน้าที่เหล่านั้น หรือที่ส่งผลให้เราถูกกล่าวหาหรือลงโทษฐานฝ่าฝืนกฎหมายที่ใช้บังคับ

3. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
        (1) เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับสมัครงาน การคัดเลือกผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์งาน การพิจารณาคุณสมบัติ การคัดเลือกเพื่อบรรจุแต่งตั้งหรือว่าจ้างท่าน การขออนุมัติเงินเดือนและผลประโยชน์ของท่าน การปรับปรุงพัฒนาระบบการคัดเลือกผู้สมัครงาน การพิจารณาอัตรากำลังคนของเรา และการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน
        (2) เพื่อการเข้าทำสัญญาแต่งตั้ง สัญญาจ้างแรงงาน สัญญาจ้างทำของ หรือสัญญาอื่นใดกับท่าน การปฏิบัติตามสิทธิหน้าที่ที่มีตามสัญญา ตลอดจนดำเนินการใดๆ ที่จำเป็นก่อนเข้าทำสัญญา เช่น การตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม เป็นต้น
        (3) เพื่อการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของเรา เช่น การจัดสรรสวัสดิการและผลประโยชน์บุคลากร การจัดทำรายงานภายใน การดำเนินการด้านภาษีและการจัดการความเสี่ยง การบริหารจัดการหรือกำหนดมาตรการทางวินัยของพนักงาน เป็นต้น
        (4) เพื่อการบริหารจัดการด้านเวลาการปฏิบัติงาน วันหยุด วันลา การมาสาย ประวัติการเจ็บป่วยและขาดงานของท่าน
        (5) เพื่อการบริหารจัดการการจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าตอบแทน โบนัส หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดตามสัญญาจ้างหรือสัญญาอื่นใดที่เราทำกับท่าน
        (6) เพื่อการบริหารจัดการสวัสดิการและผลประโยชน์ต่างๆ แก่ท่าน เช่น ตรวจร่างกายประจำปี ประกันกลุ่ม ประกันสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
        (7) เพื่อตรวจสอบ สอบสวน และดำเนินมาตรการใดๆ กับการไม่ปฏิบัติตามนโยบาย ระเบียบ ข้อบังคับของเรา ตลอดจนเพื่อการพิจารณาข้อร้องเรียน การลงโทษทางวินัย และการเลิกจ้าง
        (8) เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงานของท่านตามที่กำหนดในสัญญาระหว่างเรากับท่าน การพิจารณาปรับตำแหน่ง ปรับเงินเดือน พิจารณาการจ่ายโบนัสหรือค่าตอบแทนอื่นใด
        (9) เพื่อการบริหารจัดการการฝึกอบรม การวัดความรู้ หรือการจัดหาผลประโยชน์อื่นๆ และกิจกรรมองค์กรให้กับท่าน เช่น การจัดงานปีใหม่ประจำปี การจัดกิจกรรมนอกสถานที่ เป็นต้น
        (10) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ กฎ ระเบียบ คำสั่ง ข้อตกลง นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล รวมถึงคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม กฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เป็นต้น
        (11) เพื่อการเก็บรวมรวบ ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อประโยชน์ในการกำกับและดูแลส่งเสริมธุรกิจประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ คปภ. ซึ่งสามารถตรวจดูได้ที่เว็บไซต์ของ คปภ. (https://www.oic.or.th)
        (12) เพื่อการก่อตั้ง การปฏิบัติตาม การใช้ การโต้แย้ง การดำเนินการ หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของเรา เช่น การสอบสวนหรือไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี หรือการต่อสู้คดี เป็นต้น
        (13) เพื่อการติดต่อสื่อสารและบริหารจัดการความสัมพันธ์ของท่านกับเรา
        (14) เพื่อการบริหารจัดการอันอาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การส่งข้อมูลข่าวสารต่างๆ การรักษาความมั่นคงปลอดภัย การจัดการและการคุ้มครองพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และการความปลอดภัยของท่านและบุคคลภายนอก รวมทั้งทรัพย์สินและข้อมูลต่างๆ
        (15) เพื่อดำเนินการใดๆ ตามคำร้องขอของท่านเมื่อพ้นสภาพ เช่น การออกหนังสือรับรองประวัติการทำงาน
        (16) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กรของเรา และเพื่อการทำธุรกรรมของเรา
        (17) เพื่อการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดภายใต้นโยบายภายในของเราที่ยึดถือปฏิบัติ
        (18) เพื่อดำเนินการอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใดๆ ข้างต้น
        (19) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่เราแจ้งให้ท่านทราบ ณ เวลาที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ข้างต้น ภายใต้ฐานทางกฎหมายใดๆ ดังต่อไปนี้
        (1) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
        (2) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
        (3) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นนอกเหนือไปจากเรา
        (4) เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
        (5) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของเรา หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบให้แก่เรา
        (6) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
        (7) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายกำหนด
        (8) ความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับเรา

หากเราอาศัยความยินยอมจากท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านย่อมไม่กระทบถึงกิจกรรมที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนการถอนความยินยอม
เว้นแต่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับจะอนุญาตให้กระทำเป็นอย่างอื่น เราจะแจ้งและขอความยินยอมจากท่าน หากเราประสงค์จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ หรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนโยบายฉบับนี้

4. บุคคลใดบ้างที่อาจจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากเรา
เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้หลักความจำเป็นที่ต้องทราบข้อมูล (Need to Know basis) เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุข้างต้น และหรือในกรณีที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาตให้กระทำได้ ให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลต่างๆ ดังต่อไปนี้
        (1) กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน หรือบุคลากรภายในของเราที่เกี่ยวข้อง และจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้
        (2) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสรรพากร ศาล เป็นต้น
        (3) ผู้รับจ้าง คู่ค้า ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือได้รับมอบอำนาจของเราไม่ว่ารายใดก็ตาม ผู้ให้บริการ หรือตัวแทนผู้ให้บริการของเรา ซึ่งให้บริการเกี่ยวกับการจัดการต่างๆ การให้บริการประมวลผลข้อมูล บริการเกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจ บริการเกี่ยวกับการชำระเงิน บริการโทรคมนาคม บริการด้านเทคโนโลยี บริการคลาวด์ บริการจัดเก็บของการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสาร บริการเก็บบันทึกข้อมูล บริการสแกนเอกสาร บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการจัดพิมพ์ บริการส่งพัสดุหรือบริการรับส่งพัสดุโดยพนักงานรับส่งพัสดุ บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการวิจัย บริการบริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน บริการทางกฎหมาย หรือบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของเรา หรือการจัดให้มีการบริหารจัดการ การดำเนินการ การปฏิบัติตามขั้นตอนหรือการจัดการต่างๆ ให้แก่ท่าน
        (4) แหล่งข้อมูลที่เป็นบุคคลภายนอก (ตามข้อ 2.3)
        (5) ผู้ให้คำปรึกษาของเรา ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ อาทิเช่น ทนายความ แพทย์ ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายใน/ภายนอก หรือที่ปรึกษา
        (6) สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมหรือสมาพันธ์อื่นๆ ในภาคธุรกิจประกันภัย และผู้ประกอบธุรกิจประกันอื่นๆ
        (7) ผู้มุ่งหวัง ลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา ผู้ซื้อหรือใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์ของเราที่ท่านเป็นผู้ติดต่อสื่อสารหรือเกี่ยวข้องกับหน้าที่หรือตำแหน่งของท่าน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายกัน
        (8) บุคคลหรือหน่วยงานใดๆ ที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้นๆ ได้
        (9) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ใช้บังคับ

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น เราจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น และเราจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

5. การโอนข้อมูลไปยังประเทศอื่น/การโอนข้อมูลข้ามประเทศ
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนไป ถูกจัดเก็บไว้ หรือประมวลผลโดยเรา หรืออาจถูกส่งให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานใดๆ ตามรายละเอียดข้างต้น ซึ่งอาจมีที่ตั้งหรืออาจให้บริการอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทย ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกโอนไปยังสถานที่อื่นๆ ตามเงื่อนไขที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยหากเป็นการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระหว่างกลุ่มบริษัท เราจะดำเนินการตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในกลุ่มบริษัท (Binding Corporate Rules) ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (หากมี) หรือจัดให้มีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสม สามารถบังคับตามสิทธิของท่านได้ รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด แล้วแต่กรณี

6. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เราอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุข้างต้น โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ
ทั้งนี้ เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เกิน 11 ปี นับแต่วันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือการติดต่อครั้งสุดท้ายกับเรา เราอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนด หากกฎหมายอนุญาต หรือเป็นการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลบนฐานการประมวลผลอื่น หรือกรณีมีความจำเป็นอื่นเพิ่มเติม โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้นั้น และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติทางธุรกิจสำหรับแต่ละประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวมเป็นสำคัญ
เราจะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่าน ตามระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น โดยอาจไม่มีการแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า
7. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและช่องทางการขอใช้สิทธิ
ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้
        (1) สิทธิในการถอนความยินยอม หรือร้องขอให้เปลี่ยนแปลงขอบเขตความยินยอมของท่านที่ได้ให้ไว้กับเราในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
        (2) สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเรา หรือขอให้เราเปิดเผยแหล่งที่มาที่เราได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอม โดยเราจะมีการกำหนดขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อยืนยันตัวตนของท่านก่อน
        (3) สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน ในกรณีที่เราได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้ โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังบุคคลหรือองค์กรอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
        (4) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
        (5) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
        (6) สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
        (7) สิทธิในการขอให้ปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
        (8) สิทธิในการร้องเรียนตามที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ เราจะดำเนินการตามสิทธิของท่าน เมื่อมีการร้องขอตามช่องทางการขอใช้สิทธิด้านล่าง โดยเราอาจขอสงวนสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับจะอนุญาต ทั้งนี้ หากเราไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้ เราจะทำการบันทึกการปฏิเสธคำขอของท่านพร้อมเหตุผลไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม เราขอสงวนสิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับคำขอใช้สิทธิข้างต้น

ช่องทางการขอใช้สิทธิ
ท่านสามารถส่งคำร้องขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามช่องทางด้านล่าง

        บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
        177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
        โทรศัพท์ 0-2634-7323 โทรสาร 0-2634-7331 เวลาทำการ 08.00 น. – 17.00 น.
        E-mail: BuiL_Care@builife.com

8. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ
เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นครั้งคราว ในกรณีดังกล่าวนั้น เราจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้ใช้อำนาจปกครอง (ในกรณีของผู้เยาว์) จากผู้อนุบาล (กรณีของผู้ไร้ความสามารถ) และจากผู้พิทักษ์ (กรณีของผู้เสมือนไร้ความสามารถ) ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

กรณีที่เราไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่าเราได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยยังมิได้รับความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด เราจะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็วหากเราไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว

9. ความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เราได้จัดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมทั้งในเชิงเทคนิค เชิงกายภาพ และเชิงบริหารจัดการ เพื่อให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการสูญหาย ทำลาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ เพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้เก็บรวบรวมไว้ มีระดับการรักษาความปลอดภัยที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด

10. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้
เราขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวเท่าที่กฎหมายอนุญาต เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และเราจะประกาศนโยบายที่มีการดำเนินการดังกล่าวในเว็บไซต์ของเรา โดยหากการดำเนินการดังกล่าวนั้นเป็นสาระสำคัญของนโยบายฉบับนี้ เราจะแจ้งการแก้ไข การเพิ่มเติม การเปลี่ยนแปลง การปรับปรุง หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายให้ท่านทราบด้วยช่องทางที่เหมาะสม และหากจำเป็น เราอาจขอความยินยอมจากท่านเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ท่านตรวจสอบทบทวนเพื่อรับทราบนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวผ่านเว็บไซต์ของเรา หรือช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่เราดำเนินการ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เรา

11. ข้อมูลเพิ่มเติมและช่องทางการติดต่อสอบถาม
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาส่วนใดๆ ในนโยบายฉบับนี้ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของเราเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาติดต่อเราที่

        ชื่อ: บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
        ที่อยู่: 177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
        ช่องทางการติดต่อ: 0-2634-7323 โทรสาร 0-2634-7331 เวลาทำการ 08.00 น. – 17.00 น.
        E-mail: BuiL_Service@builife.com
        เว็บไซต์: www.builife.com

        เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
        ที่อยู่: 177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
        ช่องทางการติดต่อ: 0-2634-7323 โทรสาร 0-2634-7331 เวลาทำการ 08.00 น. – 17.00 น.
        E-mail: DPO@builife.com





นโยบายฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2565

 

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด



ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด

(CCTV Privacy Notice)

        บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (ต่อไปจะเรียกว่า “เรา”) กำลังดำเนินการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ในพื้นที่ภายในของเรา (“พื้นที่”) เพื่อการปกป้องชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน ทั้งนี้ เราทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน บุคลากรภายในที่เกี่ยวข้อง ผู้ปฏิบัติงาน ผู้รับเหมา ลูกค้า ผู้มาติดต่อ หรือบุคคลใดๆ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า “ท่าน”) ที่เข้ามายังพื้นที่ โดยผ่านการใช้งานอุปกรณ์กล้องวงจรปิดดังกล่าว
        ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (“นโยบาย”) ฉบับนี้ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ซึ่งข้อมูลที่สามารถทำให้สามารถระบุตัวท่านได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมทั้งสิทธิต่างๆ ของท่าน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เราดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้
        ❒ ความจำเป็นในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น
        ❒ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือบุคคลอื่น โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อย ไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
        ❒ ความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งควบคุมดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมใน สถานที่ทำงานและทรัพย์สินของเรา

2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
        1. เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน
        2. เพื่อการปกป้องพื้นที่ สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของเราจากความเสียหาย การขัดขวาง การทำลายซึ่งทรัพย์สินหรืออาชญากรรมอื่น
        3. เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการยับยั้ง ป้องกัน สืบค้น และ ดำเนินคดีทางกฎหมาย
        4. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่มีกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์
        5. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสอบสวน หรือ กระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน
        6. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการริเริ่มหรือป้องกันการฟ้องร้องทางแพ่ง ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
        7. เพื่อดำเนินการอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใดๆ ข้างต้น
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมและใช้
ตามวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2. เราทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในตำแหน่งที่มองเห็นได้ โดยจะจัดวางป้ายเตือนการใช้งานกล้องวงจรปิด ณ ทางเข้าและทางออก รวมถึงพื้นที่ที่เราเห็นสมควรว่าเป็นจุดที่ต้องมีการเฝ้าระวัง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านเข้ามายังพื้นที่ดังต่อไปนี้

รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
        • ภาพนิ่ง
        • ภาพเคลื่อนไหว
        • เสียง
        • ภาพทรัพย์สินของท่าน เช่น พาหนะ กระเป๋า หมวก เครื่องแต่งกาย เป็นต้น

        ทั้งนี้ เราจะไม่ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่อาจเป็นการล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านจนเกินสมควร เช่น ห้องน้ำ เป็นต้น

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
        เราจะเก็บรักษาข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านไว้เป็นความลับและจะไม่ทำการเปิดเผย เว้นแต่ กรณีที่เรามีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในนโยบายฉบับนี้ เราอาจเปิดเผยข้อมูลในกล้องวงจรปิดแก่ประเภทของบุคคลหรือนิติบุคคล ดังต่อไปนี้
        1. หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนในการบังคับใช้กฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดีความต่าง ๆ
        2. ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อความจำเป็นในการสร้างความมั่นใจในเรื่องการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ รวมทั้งทรัพย์สินของท่านหรือบุคคลอื่น
        3. บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ใช้บังคับ

5. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและช่องทางการขอใช้สิทธิ
ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้
        (1) สิทธิในการถอนความยินยอม หรือร้องขอให้เปลี่ยนแปลงขอบเขตความยินยอมของท่านที่ได้ให้ไว้กับเราในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
        (2) สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเรา หรือขอให้เราเปิดเผยแหล่งที่มาที่เราได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอม โดยเราจะมีการกำหนดขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อยืนยันตัวตนของท่านก่อน
        (3) สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน ในกรณีที่เราได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถ อ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังบุคคลหรือองค์กรอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
        (4) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
        (5) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
        (6) สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
        (7) สิทธิในการขอให้ปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
        (8) สิทธิในการร้องเรียนตามที่กฎหมายกำหนด

        ทั้งนี้ เราจะดำเนินการตามสิทธิของท่าน เมื่อมีการร้องขอตามช่องทางการขอใช้สิทธิด้านล่าง โดยเราอาจขอสงวนสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับจะอนุญาต ทั้งนี้ หากเราไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้ เราจะทำการบันทึกการปฏิเสธคำขอของท่านพร้อมเหตุผลไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม เราขอสงวนสิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับคำขอใช้สิทธิข้างต้น

ช่องทางการขอใช้สิทธิ
ท่านสามารถส่งคำร้องขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามช่องทางด้านล่าง
        บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
        177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
        โทรศัพท์ 0-2634-7323 โทรสาร 0-2634-7331 เวลาทำการ 08.00 น. – 17.00 น.
        E-mail: BuiL_Care@builife.com

6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
        เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเฝ้าระวังสังเกตโดยการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิดตามที่นโยบายฉบับนี้กำหนด เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน เป็นระยะเวลาไม่เกิน 11 ปี นับแต่วันสุดท้ายที่ท่านเข้ามาหรืออยู่ในพื้นที่ เราอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนด หากกฎหมายอนุญาต หรือเป็นการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลบนฐานการประมวลผลอื่น หรือกรณีมีความจำเป็นอื่นเพิ่มเติม โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้นั้น และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติทางธุรกิจเป็นสำคัญ
        เราจะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่าน ตามระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น โดยอาจไม่มีการแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า

7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
        เราได้จัดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมทั้งในเชิงเทคนิค เชิงกายภาพ และเชิงบริหารจัดการ เพื่อให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการสูญหาย ทำลาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ เพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้เก็บรวบรวมไว้ มีระดับการรักษาความปลอดภัยที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด
8. ความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
        เราได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยเราจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้อย่างเคร่งครัด
9. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายฉบับนี้
        เราขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวเท่าที่กฎหมายอนุญาต เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และเราจะประกาศนโยบายที่มีการดำเนินการดังกล่าวในเว็บไซต์ของเรา โดยหากการดำเนินการดังกล่าวนั้นเป็นสาระสำคัญของนโยบายฉบับนี้ เราจะแจ้งการแก้ไข การเพิ่มเติม การเปลี่ยนแปลง การปรับปรุง หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายให้ท่านทราบด้วยช่องทางที่เหมาะสม และหากจำเป็น เราอาจขอความยินยอมจากท่านเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ท่านตรวจสอบทบทวนเพื่อรับทราบนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวผ่านเว็บไซต์ของเรา โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเข้ามาในพื้นที่ของเรา
        การเข้ามาในพื้นที่ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ โปรดระงับการเข้าพื้นที่ หากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในนโยบายฉบับนี้ หากท่านยังคงเข้ามาในพื้นที่ต่อไปภายหลังจากที่นโยบายฉบับนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว

10. ข้อมูลเพิ่มเติมและช่องทางการติดต่อสอบถาม
        หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาส่วนใดๆ ในนโยบายฉบับนี้ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของเราเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาติดต่อเราที่

        ชื่อ: บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
        ที่อยู่: 177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
        ช่องทางการติดต่อ: 0-2634-7323 โทรสาร 0-2634-7331 เวลาทำการ 08.00 น. – 17.00 น.
        E-mail: BuiL_Service@builife.com
        เว็บไซต์: www.builife.com

        เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
        ที่อยู่: 177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
        ช่องทางการติดต่อ: 0-2634-7323 โทรสาร 0-2634-7331 เวลาทำการ 08.00 น. – 17.00 น.
        E-mail: DPO@builife.com





นโยบายฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2565

 


besucherzähler script

นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy) BUI Life Insurance Public Company Limited
บริษัท บางกอกสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
177/1 อาคารบางกอกสหประกันภัย 2 ชั้น 8
ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ
Tel. 0-2634-7323 Fax 0-2634-7331
×
นโยบายการใช้คุกกี้

บริษัทใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ของบริษัททำงานได้อย่างถูกต้อง แสดงเนื้อหาและโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ เปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโชเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าถึงข้อมูลของบริษัท เรายังแบ่งปันข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์กับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย การโฆษณาและพาร์ทเนอร์การวิเคราะห์ของบริษัทอีกด้วย นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy)